ข่าวกีฬาล่าสุดวันนี้ถ้าถามถึงทีมฟุตบอลสักทีมที่แฟนบอลเหนียวแน่นที่สุดในเกาะอังกฤษ ก็คงหนีไม่พ้นทีมสาลิกาดงหรือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดที่มีจุดเด่นทั้งการเป็นสโมสรเดียวในเมืองและความคลั่งไคล้ของแฟนๆ ที่มักจะพร้อมใจกันสวมเสื้อทีมเชียร์ไม่ว่าจะเป็นในสนามและตามร้านอาหารที่รู้กันเลยว่าช่วงสุดสัปดาห์จะแน่นขนัดไปด้วยแฟนคลับ นิวคาสเซิ่ล
แต่ทว่าความรักบริสุทธิ์กลับไม่ถูกตอบแทนอย่างคู่ควร เมื่อเจ้าของสโมสรอย่างไมค์ แอชลีย์ที่มักจะบริหารทีมแบบเน้นผลกำไรมากกว่าความสำเร็จในสนาม โดยเฉพาะในเรื่องตลาดซื้อขายนักเตะกับการเปลี่ยนตัวผู้จัดการเป็นว่าเล่นจนทำให้ทีมตกต่ำจนถึงปัจจุบัน

แผลใหญ่แผลแรกของแอชลีย์กับแฟนบอลก็คือการลาออกจากทีมของเควิน คีแกน ผู้จัดการระดับตำนานของนิวคาสเซิ่ลที่มีปัญหากันเองตลาดซื้อขายนักเตะ เมื่อทีมบริหารไม่สามารถนำนักเตะที่เขาต้องการมาได้ อีกทั้งยังเซ็นสัญญานักเตะรายอื่นที่คีแกนไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำมาสู่ทีม
จนทำให้คิงเคฟไม่พอใจอย่างหนักจนขอบอกลาทีมไป จากนั้นไม่นานแอชลีย์จะจ้างผู้จัดการทีมรุ่นโบราณอย่างโจ คินเนียร์ที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของนักเตะในทีม จนทำให้ปัญหาบานปลายและทำให้ทีมตกชั้นในที่สุดในฤดูกาล 2008/2009 แม้ว่าการตกชั้นครั้งเดียวอาจจะเป็นเรื่องเสียหายร้ายแรงแล้ว แต่ทว่าปัญหาของทีมยังไม่จบ

หลังจากที่พวกเขากลับมาสู่พรีเมียร์ลีกได้เพียง 6 ปี พวกเขาก็ต้องตกชั้นไปอีกครั้งหลังจากที่จ้างกุนซืออย่างสตีฟ แมคคลาเร็นอดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษซึ่งถูกตราหน้าว่าไม่มีฝีมือมาเป็นเวลานาน แม้ว่าช่วงปลายฤดูกาล 2015/2016 สโมสรจะพยายามด้วยการจ้างราฟาเอล เบนิเตซมาแก้สถานการณ์ก็ตาม
นอกจากการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมอยู่บ่อยครั้งแล้ว ปัญหาที่ทำให้แฟนบอลนิวคาสเซิลคอยขับไล่เจ้าของมาตลอดสิบปีที่ผ่านมาก็คือการปล่อยตัวนักเตะคนสำคัญของทีมออกไปเสมอ โดยผู้เล่นมากหน้าหลายตาต้องตบเท้าออกจากสนามเซนต์ เจมส์ พาร์คเสมอเมื่อแอชลีย์เจอข้อเสนอราคาแพง
ไม่ว่าจะเป็นแอนดี้ คาร์โรล์, แอนดรอส ทาวน์เซน, โฆเซ่ เอนริเก้และโยฮาน กาบาย จนทำให้ทีมเสียสมดุลเสมอหลังจากมีผลงานที่ดี อีกทั้งการเลือกซื้อนักเตะใหม่เข้ามาโดยเน้นราคาถูกเป็นหลัก จึงทำให้ทีมนิวคาสเซิ่ลมักจะเต็มไปด้วยผู้เล่นอ่อนประสบการณ์มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นโฆเซลูหรือโฟลรอง โตแวงที่ย้ายมาสร้างความผิดหวังในพรีเมียร์ลีกอย่างน่าเสียใจ

ด้วยสองเหตุผลหลักนี่เองที่ทำให้แฟนบอลไม่พอใจในตัวแอชลีย์เป็นอย่างมาก และพยายามขับไล่เจ้าของร่างท้วมคนนี้เสมอ ซึ่งทางเจ้าของทีมก็พยายามจะขายสโมสรเช่นกัน แต่ทว่าเขากลับตั้งราคาไว้สูงถึง 350 ล้านปอนด์จนกระทั่งไม่มีกลุ่มทุนไหนยอมซื้อในราคานี้จนผลเสียต้องตกไปอยู่กับทีมที่เสมือนถูกแช่แข็งไว้ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบันที่สะท้อนว่าอนาคตของนิวคาสเซิ่ลยังอยู่ท่ามกลางหมอกควันและไม่อาจเห็นแสงปลายทางในเร็ววันนี้